โอเมก้า3 มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งมาก

วันที่: 2010-08-20 22:05:32.0view 32621reply 0

ชื่อ Writer name

4life

โอเมก้า 3 (EPA) ยับยั้งน้ำหนักตัวลดใน ผู้ป่วยมะเร็ง
(รศ.นพ. นรินทร์ วรวุฒิ หน่วยมะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

                หลายคนคงรู้จักกรดไขมันในแง่ประโยชน์และโทษมาบ้างแล้วว่า กรดไขมันมี 2 ชนิด คือ กรดไขมันอิ่มตัว และกรดไขมันไม่อิ่มตัว จากการศึกษาพฤติกรรมการรับประทานของชนกลุ่มต่างๆ พบว่า ในกลุ่มผู้ที่นิยมรับประทานอาหารแบบอเมริกันและยุุโรปที่มักประกอบไปด้วยกรด ไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูงเป็นประจำ ล้วนประสบปัญหาโรคอ้วน โรคไขมันในเส้นเลือดสูง โรคความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด
                ตรงข้ามกับชนเผ่าชาวเอสกิโม ที่มีอัตราการเกิดโรคดังกล่าวน้อย แถมยังมีสุขภาพแข็งแรง เพราะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยปลาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว หรือที่เรียกว่า น้ำมันปลา (fish oil) ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบไปด้วย กรดไขมันจำเป็น สำคัญ 2 ชนิด คือ Eicosapentaennoic acid (EPA) และ Docosahexaenoic acid (DHA)

โอเมก้า 3 (EPA) คืออะไร

          Eicosapentaennoic acid (EPA) เป็นหนึ่งในกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า 3 ที่สกัดจากน้ำมันปลา (fish oil) ซึ่งน้ำมันปลานี้จะแทรกซึมอยู่ในบริเวณเนื้อ หนัง หัวและหางของปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาเทร้าท์ และปลาดาบ เป็นต้น

ประโยชน์ของโอเมก้า 3   มีอย่างหลายแง่ คือ

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และป้องกันภาวะน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง
ลด ความเสี่ยงตต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ป้องกันการอุดตันในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ทำให้เลือดไม่เกาะตัวเป็นลิ่มเลือด ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีขึ้น
เสริมสร้างการทำงานของระบบตาและสมอง ในเด็กๆ ช่วยในการเสริมเซลล์สมอง ในผู้ใหญ่ป้องกันโรคความจำเสื่อม
พบงานวิจัยที่เยอรมัน ใช้โอเมก้า 3 ในควบคู่กับการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก และป้องกันการกลับมาเกิดซ้ำได้เป็นอย่างดี
ช่วยระบบข้อต่อทั่วร่างกายให้ทำงานดี และลดอาการอักเสบจาก เก๊าซ์ และรูมาตอยด์

โอเมก้า 3 กับโรคมะเร็ง

ตามปกติแล้วร่างกายคนเราจะมีการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยการปล่อยโปรตีนชนิดหนึ่ง (proinflammatory cytokine) ออกมา เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ (inflammatory response) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเยียวยาตัวเองขณะป่วยหรือบาดเจ็บ แต่กรณีโรคมะเร็ง ร่างกายไม่สามารถควบคุมการปล่อยโปรตีน cytokine ได้ ซึ่งเมื่อ cytokine ถูกปล่อยออกมามากๆ จะส่งผลให้เกิดการเผาผลาญอาหารหลักมากกว่าปกติหลายเท่า และถ้าพลังงานที่ร่างกายได้รับเข้าไปนั้น ไม่เพียงพอต่อกระบวนการเผาผลาญ ผู้ป่วยมะเร็งจึงมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร รับประทานได้น้อย และอิ่มเร็ว ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารจนเกิดปัญหาทุพโภชนาการ หรือน้ำหนักตัวลด ส่งผลกระทบต่อการรักษาและคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ
โอเมก้า 3 สามารถเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของกระบวนการเมตาบอลิซึ่มให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยลดการ
สร้าง proinflammatory cytokine จึงช่วยยับยั้งภาวะน้ำหนักตัวลดในผู้ป่วยได้ จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งควรได้รับโอเมก้า 3 จำนวน 2 กรัมต่อวัน จึงจะมีผลช่วยลดการสร้าง proinflammatory cytokine ในร่างกายได้ แต่ในทางปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องยาก เพราะการที่ร่างกายจะไ้ด้รับโอเมก้า 3 ให้เท่ากับขนาดที่แนะนำ 2 กรัมต่อวัน ผู้ป่วยต้องกินปลาทะเลน้ำลึกในปริมาณที่มาก จึงจะได้รับโอเมก้า 3 เพียงพอ (ดังตารางเปรียบเทียบ)

ชนิดปลา

จำนวน

ปลาดาบ

บลูฟิน ทูน่า

กุ้ง

แซลมอน

ปลาเทร้าสายรุ้ง

ปลาโอลาย

2,120 กรัม

930 กรัม

406 กรัม

809 กรัม

2,564 กรัม

ตารางแสดงน้ำหนักปลาที่ให้ EPA จำนวน 2 กรัม

รศ. นฤมล จียโชค โครงการวิจัยเรื่องการเพิ่มความเข้มข้นของ EPA และ DHA ในน้ำมันปลาทูน่าโดยใช้เอนไซม์ไลเปส (ระยะที่ 3:1 ตุลาคม 2540 - 30 กันยายน 2542) คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)

ดังนั้น การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีโอเมก้า 3 เป็นส่วนประกอบเสริมหรือเพิ่มเติมจากอาหารปกติ จะช่วยอำนวยความสะดวยและทำให้คุณภาำพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้น เช่น สามารถทำกิจกรรมประจำวันต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องทุกข์ทรมาณ
กับภาวะน้ำหนัก ตัวลดอันมีผลมาจากเซลล์มะเร็ง และหากรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและพลังงานสูงในปริมาณที่่เพี่ยงพอ จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีน้ำหนักตัวและมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยร่วมและง่ายต่อการรับการรักษาจากแพทย์อย่างเต็มที่อีก ด้วย (ผู้ป่วยมะเร็ง ห้ามให้น้ำหนักลดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ รับยาเคมี หรือฉายรังสีไม่ได้ ส่งผลให้การรักษาไม่มีประสิทธิภาพเท่าำที่ควร อัตราการหายก็จะลดลงด้วย)

Previous	Fibromyalgia คืออะไร?
ต่อไป	หายใจถูกวิธีหรือเปล่า

All Replys: 0

Pages: 1/0