ลืม password | สมัครสมาชิก
วันที่: 2013-04-28 12:25:20.0view 35124reply 0
ชักจากไข้สูงในเด็ก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีความรู้ ตอนที่1 สวัสดีครับวันนี้เรามาพูดเรื่องของเด็กๆตัวน้อยๆกันบ้างนะครับ เชื่อได้เลยว่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกตัวน้อยๆ ต้องเคยเจอปัญหาลูกไข้ ไม่สบาย และสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มักจะกังวลกันมากที่สุด คือ"กลัวลูกชักเวลาไข้ขึ้น" วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องนี้กันครับ ... อาการชักจากไข้สูงเป็นอาการนำที่พาคนไข้เด็กมาโรงพยาบาลบ่อยอาการหนึ่ง โดยพบได้ประมาณ 3% ในเด็กอายุ ในช่วงอายุ 6 เดือน-6 ขวบ ส่วนมากจะพบอาการชักเมื่อไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส (จำตรงนี้ไว้ให้ดีเลยครับเป็นจุดสำคัญเลย ชื่อบอกว่าชักจากไข้สูง ดังนั้นถ้าเราไม่ปล่อยให้ไข้ขึ้นสูงโอกาสชักก็จะน้อยนะครับ) การวินิจฉัยว่าลูกน้อยของคุณเป็นอาการชักจากไข้สูงต้องดูจากประวัติสำคัญๆ เหล่านี้ เพื่อแยก อาการชักจากสาเหตุอื่นๆออกไป ได้แก่ 1. ไม่เคยมีอาการชักเมื่อไม่มีไข้มาก่อน 2. ไม่มีความผิดปกติทางด้านสมองและระบบประสาททั้งโดยกำเนิดและเกิดขึ้นทีหลัง 3. ไม่ลักษณะของการติดเชื้อในระบบประสาท เช่น ไข้สมองอักเสบ ไข้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (ซึ่งจะทราบได้จากการตรวจน้ำไขสันหลังในกรณีที่สงสัยครับ) สาเหตุของการชักจากไข้สูงนั้นยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ระบบสมองของเด็กเล็กยังไม่พัฒนาสมบูรณ์ เมื่อมีสิ่งกระตุ้นคือการติดเชื้อและไข้สูงจึงทำให้เกิดการชักได้ และอาจเกี่ยวข้องกับประวัติการชักในครอบครัวครับ ลักษณะอาการชักจากไข้สูงโดยทั่วไป คือ อาการชักเกร็งทั้งตัว (generalised tonic-clonic)เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 15 นาที หลังชักการรู้สึกตัวกลับมาปกติใน 1 ชม.และมักไม่ชักซ้ำอีกในการป่วยครั้งนั้น ซึ่งถ้าเด็กมีอาการชักจากไข้แบบธรรมดานี้ ไม่มีความจำเป็นต้องหาสาเหตุการชักเพิ่มเติม แต่หากเด็กมีอาการชักแบบซับซ้อนไม่ตรงตามที่บอกข้างต้น เช่น มีอาการชักเป็นจุดๆ ไม่เกร็งทั้งตัว เช่น แขน หรือ ขา ข้างใดข้างหนึ่ง (focal seizure) ชักนานเกิน 15 นาที มีการชักซ้ำในการป่วย 1 ครั้ง และภายใน 1 ชม.เด็กยังซึมๆ ไม่ค่อยรู้สึกตัว ไม่พูดไม่ร้องเท่าไหร่ อาการเหล่านี้ต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมทางระบบประสาทครับ อาจใช้การเจาะหลังเพื่อเอาน้ำไขสันหลังไปตรวจหาการติดเชื้อในระบบประสาท ตรวจ xray คอมพิวเตอร์สมอง หรือคลื่นไฟฟ้าสมอง ความรู้เบื้องต้นเป็นประมาณนี้ก่อนนะครับ ดังนั้นกลับมาที่จุดที่อยากเน้นย้ำที่สำคัญที่สุดคือ "อย่าปล่อยให้ลูกไข้ขึ้นสูงครับ" หลายๆครั้งจากประสบการณ์ที่เจอเคส เด็กชักจากไข้สูงคือ คุณพ่อคุณแม่ ไม่รู้วิธีการลดไข้ที่ถูกต้อง จนในที่สุดไข้สูงมากจนชักและพอเด็กชักก็มักตกใจทำอะไรไม่ถูก อ่านบทความนี้แล้วสติสำคัญที่สุดนะครับ มาย้ำเติอนวิธีการลดไข้กันอีกครับ สิ่งสำคัญคือการเช็ดตัวลดไข้และการกินยาแก้ไขครับ - ยาแก้ไข้พาราเซตามอลกินได้ทุก 4 ชม.ยาน้ำขนาด 120 มก./5มล. ให้ใช้ขนาดตามน้ำหนักตัวนะครับ 10 กิโลกรัม/1ช้อนชาหรือ5มล. 20 กิโลกรัมก็2ช้อนชา ครับ สำหรับยาลดไข้สูงเช่น Ibuprofen หรือบรูเฟนที่เรียกกันนั้นถ้าไม่จำเป็นไม่แนะนำให้ให้เด็กครับเพราะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาได้หลายอย่าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเช็ดตัวลดไข้ดีๆ ไข้ก็จะลงเยอะแล้วครับ - cool pack/cold pad ที่ชอบใช้แปะหน้าผากกันไม่มีประโยชน์ครับ พื้นที่ผิวหน้าผากน้อยเกินไปกับการระบายความร้อน บางคนคิดว่าแปะแล้วไข้จะลด ไม่เช็ดตัว อันตรายนะครับ ไข้อาจขึ้นสูงได้มาก - การเช็ดตัวหรืออาบน้ำใช้น้ำปกติเลยครับไม่ต้องใช้น้ำเย็น การเช็ดตัวที่ถูกต้องสำคัญมาก!!!!! จะช่วยลดไข้ได้เร็ว - สิ่งที่ต้องเตรียม อ่างน้ำใส่น้ำปกติ ผ้าขนหนู3-4ผืน - ถอดผ้าให้หมดครับ การเช็ดตัวให้เช็ดย้อนรูขุมขนตามแขนขาก็จะเป็นการเช็ดขึ้นนะครับ จากปลายแขนปลายขามาหาลำตัว เช็ดด้วยแรงพอสมควรให้ตัวเริ่มแดงๆ เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน และให้เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัวคายความร้อนครับ คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่จะกลัวลูกเจ็บกลัวลูกร้อง เลยแค่ลูบๆเบาๆ นั่นไม่ค่อยได้ช่วยอะไรนะครับ ประสบการณ์ส่วนตัวผมมีน้องตัวเล็กๆ ครับ ตอนน้องป่วยผมนี่แหละเป็นคนเช็ดตัวให้จนตัวแดงเลยไข้ลงดี ส่วนน้องน่ะร้องจ๊ากตลอด แต่ตอนนั้นต้องไม่สนใจนะครับ เอาไข้ให้ลงสำคัญที่สุด - วางผ้าหมาดๆตามบริเวณข้อพับแขนขาเพื่อช่วยระบายความร้อนนะครับ - ขอย้ำ"เช็ดตัวอย่ากลัวลูกเจ็บครับ" กลัวเจ็บเช็ดไม่ถูกไข้ไม่ลด ในเด็กเล็กๆไข้สูงจนชักได้นะครับ เช็ดเสร็จก็วัดไข้ใหม่ถ้าไข้ไม่ลงก็เช็ดไปเรื่อยๆจนกว่าไข้จะลงนะครับ เช็ดตัวไปประมาณ 10-15 นาทีแล้ววัดไข้ครั้งนึงก็ได้ครับ จบตอนที่ 1 นะครับ Admin Dr.JAme