การดูแลผิวสวยหน้าร้อนด้วยกรดไฮยาลูรอน
พอผิวหน้าของเราโดนแสงแดดจัดๆ แล้วรู้สึกแสบร้อน แห้งเป็นขุ่ย บางคนถึงกับลอกแดงเป็นผื่น ดูน่ากลัว ต้องไปปรึกษาหมอผิวหนัง หรือซื้อยามารักษา ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความร้อนไปทำลายกรดไฮยาลูรอนในผิวของเรา
ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) คือ กรดที่ ร่างกายของเราผลิตขึ้นมา มีอยู่ทั่วไปตามร่างกาย เป็นส่วนผสมหลักในการรักษาริ้วรอยแห่งวัย พบได้ในร่างกายของมนุษย์ตามวุ้นในโพรงลูกตา , น้ำหล่อลื่น ข้อต่อต่าง ๆ และเนื่อเยื่อส่วนต่าง และโดยเฉพาะบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างอวัยวะและเซลล์ เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี และเพิ่มความยืดหยุ่น เช่นจุดเชื่อผมต่อบริเวณหัวเข่าซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวยึดเกาะแต่ละส่วนให้ติดกัน มีลักษณะเป็นวุ้นอยู่ระหว่าง คอลลาเจนและอีลาสตินไฟเบอร์ ช่วยลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นจากกระแสเลือดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น โดยการกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวและทำหน้าที่เสมือนเป็นตัว หล่อลื่นผิวจากการการถูกทำลายจากสารเคมี
ไฮยาลูรอนิคนี้จัดเป็นประเภทของ glycosaminoglycan ซึ่ง มีหน้าที่ต้านการอักเสบ และการบวมน้ำ หน้าที่หลักๆ ของ glycosaminoglycan นั้นคือการช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกาย, เติมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการของร่างกาย และลำเลียงไปยังโมเลกุล
ถ้าขาดสาร ตัวนี้ จะมีผลทำให้การเดินจะเจ็บปวดเพราะว่าไม่มีตัวช่วยลดการเสียดสีระหว่างกระดูก ข้อต่อนั่นเอง, และมันยัง ถูกใช้ใน วงการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่ออีกด้วย
ประโยชน์ของกรดไฮยาลูรอนิคที่มีต่อผิวหน้า
แต่ สำหรับผิวหน้าของเรานั้น กรดตัวนี้จะถูกผลิตขึ้นและถูกหล่อเลี้ยงจากบริเวณผิวหนังชั้น dermis (ผิวชั้นล่าง) และกระจายไป ถึงผิวหนังชั้น epidermis (ผิว หนังชั้นบน) บทบาทสำคัญที่เราควรตระหนักก็คือ มันจะช่วยให้ผิวหนังสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้มากกว่าปรกติหลายเท่าเลย โดยที่ไม่เพิ่มความมันแบบที่ไม่ดี sebum บนผิวชั้นนอก
ดังนั้นคนที่มีผิวมันก็สบายใจขึ้นมาบ้าง เมื่อผิวมีความชุ่มชื่นที่ดีเพียงพอ ผิวหน้าก็จะดูอ่อนกว่าเยาว์ ดูเนียนเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง มีความยืดหยุ่น นุ่มนวล และดูมีชีวิตชีวา ..
กรดไฮยาลูรอนิคยังช่วยให้รักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ผิวหนังได้เร็วกว่าเดิม 80% อีกด้วย นั่นหมายความว่าผิวสามารถที่จะสมานและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
ผลดีอีกข้อนั่นก็คือการช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นด้วย (plump effect) และโดยปรกติการไหลเวียนของเลือดจะเป็นตัวนำของเสียออกจากเซลล์ตามธรรมชาติ แต่สำหรับเซลล์ผิวที่ไม่ได้ติดต่อกับเส้นเลือดโดยตรง กรดไฮยาลูรอนิคนั้นจะช่วยเพิ่มการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิวในส่วนนั้นและ ยังช่วยกำจัดของเสียออกจากเซลล์เหล่านั้น
แต่เมื่ออายุมากขึ้น ตั้งแต่ 30-40 ขึ้น ไป การผลิตกรดไฮยาลูรอนิคตามธรรมชาติก็ลดน้อยลงไปด้วยครับ ผลก็คือผิวที่จะสูญเสียความชุ่มชื่น ผิวแห้งขึ้น และขาดความยืดหยุ่น สิ่งที่จะตามมาไม่ช้านั่นก็คือ ริ้วรอยที่จะเพิ่มมากขึ้น และความแก่ชราก็จะปรากฏชัดขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิคสำหรับผู้ที่ มีอายุมากขึ้นหรือผู้ที่มีผิวแห้ง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง นอกเหนือไปจากการบำรุงและเสริมสร้างแต่เพียง collagen – elastin และลดริ้วรอยแค่พื้นผิวภายนอกตามปรกติ
HYALURONIC ACID มีผลอย่างไรต่อ ริ้วรอย?
ปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมมาตลอด เป็นเพราะว่ามันออกฤทธิ์ได้ผลดี โดยเฉพาะช่วยในการลดริ้วรอย Hyaluronic acid นิยมใช้กันอย่างแพร่ หลายในวงการแพทย์โดยเฉพาะทางด้านความงาม (ทั้งในรูป ครีมทาและยาฉีด) และในธุรกิจเครื่องสำอางเอง พวกเราก็จะพบเห็นได้บ่อยมากในผลิตภัณฑ์กลุ่มลดริ้วรอย ด้วยความสามารถในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย และเร่งขบวนการหายของแผล ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ ถูกนำมาใช้เป็นจุดขายหลักของผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมหลายตัว และรวมไปถึงเวชสำอางที่เป็นแบรนด์เนมของแพทย์ โดยใช้เป็นสารออกฤทธิ์ที่สำคัญร่วมกับโคเอ็นไซม์-คิวเท็น (Coenzyme Q10), วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
ร่างกายคนเราสามารถสร้าง Hyaluronic acid ได้เอง โดยพบมากที่ผิวหนัง และปัจจุบันก็มีการผลิตขึ้นมาขายในเชิงพาณิชย์โดยผ่านขบวนการหมักทางชีวภาพ
Hyaluronic acid มีลักษณะหนืดข้น ละลายน้ำได้และมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก แนะนำให้ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (ทั้ง ครีมบำรุง, โลชั่น, สเปรย์, ลิปสติก อื่นๆ) ที่ความเข้มข้น 0.25% ถึง 2.00%
นอกเหนือจากคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีแล้ว มันยังช่วยลด การสร้างอนุมูลอิสระและช่วยกรองรังสี UV ได้ อีกด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โดยลำพังแล้วกรดไฮยาลูโรนิกก็จัดได้ว่า เป็นสารที่ช่วยชะลอความแก่ที่มีประสิทธิภาพดีตัวหนึ่ง จึงมีราคาค่อนข้างแพงพอควร และราคาของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายก็ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของปริมาณกรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้
ปัจจุบัน มีเครื่องสำอางหลายชนิด รวมไปถึงสินค้าที่เป็นแบรนด์ของ แพทย์ก็เช่นกัน ซึ่งมีทั้งในรูปของครีมทาและยาฉีดก็มี
ในประเทศไทย เองก็มีการนำเข้าสารเคมีตัวนี้มาใช้ในครีมบำรุงผิวกันมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเวชสำอาง ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ มีราคาค่อนข้างสูง ระยะหลังมีการนำ Hyaluronic acid เข้ามา จากจีน ซึ่งก็มีราคาถูกลง แต่พวกคุณก็ต้องระวัง ด้วย เพราะกรดไฮยารูโลนิกบางตัวมีราคาถูกมาก เนื่องจากเป็นเกรดที่ต่ำ เมื่อใส่ ในผลิตภัณฑ์แล้วมักจะใช้ไม่ได้ผล -- ตามที่ ผู้ผลิตอ้าง ดังนั้นพวกคุณอาจจะต้องเสียเงิน เปล่า เพราะขายสินค้าไม่ได้
คำแนะนำ อย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน ที่มีราคาถูกเกินไปเพราะจะไม่ได้ผล แล้วอาจจะทำให้หน้าคุณพังเหมือนเดิม เมื่อคุณใช้แล้ว จะต้องรู้สึกว่าหน้าอักเสบน้อยลง ชุ่มชื่นขึ้น ทาแป้งติด และเมื่อใช้ติดต่อกันเกิน 8 สัปดาห์ ริ้วรอยต่างๆ ตื้นขึ้น
ควรใช้หลังหลังหน้า ก่อนออกแดด ก่อนแต่งหน้า ทุกครั้ง หรือเติมระหว่างวันได้ตลอดเวลา
เครดิต : Timmy Mueller |
|
|
|